สารจากประธานกรรมการ

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ปี 2566 ที่ผ่านมา ดิฉันเสียใจที่จะต้องเรียนว่า บริษัทของเราประสบสภาวะขาดทุนต่อเนื่อง 306 ล้านบาท เป็นการขาดทุนจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 161 ล้านบาทและจากธุรกิจโรงแรม 145 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยและของโลกซึ่งยังคงเปราะบาง ถดถอย หรือ เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.9% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 3.4% และลดลงจากการขยายตัว 2.6% ในปี 2565 ส่งผลให้เกิดปัจจัยลบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งกำลังซื้อที่ลดลง อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น หนี้สินครัวเรือนที่สูงกว่า 90%ของGDP ทำให้การปล่อยสินเชื่อเข้มงวดและยากขึ้นอย่างชัดเจน ต้นทุนการผลิตก็แพงขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว

ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2566 มีรายได้รวม ทั้งสิ้น 2,251 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 75 ล้านบาทจากปีก่อน เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 794 ล้านบาทต่อปีลดลง 356 ล้านบาท และเป็นรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม 947 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 275 ล้านบาท บริษัทฯ มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 12,820 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1,667 ล้านบาทจากปี 2565

รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ หลักๆ มาจากการขายโครงการ บ้านพระรามเก้า 210 ล้านบาท ดิ อิสสระเชียงใหม่ 167 ล้านบาท กลุ่มทิวทะเล 124 ล้านบาท ดิ อิสสระ สาทร 139 ล้านบาท และ ศศรา หัวหิน 76 ล้านบาท ซึ่งการโอนสองโครงการหลังนี้ล่าช้ากว่ากำหนด โดยเริ่มโอนได้เมื่อปลายปีที่แล้ว จึงเหลือยอดขายรอการโอนได้ต่อเนื่องต้นปี 2567 จำนวน 450 ล้านบาทและ 860 ล้านบาทตามลำดับ โครงการที่ขายได้ช้ามาก คือ โครงการบ้านอิสสระบางนา ซึ่งปี 2566 บริษัทฯเราลงทุนก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จไปหลายหลัง แต่ยังไม่สามารถขายได้ตามเป้า ส่วนโครงการต่างๆที่ทิวทะเลเอสเตท ชะอำ การขายก็ชะลอลงมากเพราะจำนวนคนเดินทางไปชะอำ หัวหินลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ด้านกิจการโรงแรม นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางไปภูเก็ตมากขึ้น แม้จำนวนจะยังไม่เท่าช่วงก่อนโควิดก็ตาม ผลประกอบการของโรงแรมศรีพันวาดีขึ้นตามลำดับ แต่กิจการของ โรงแรม Baba Beach Club นาใต้ พังงา และ Habita Sea View Hua Hin ยังขาดทุนอยู่ อย่างไรก็ตามทั้งสองโรงแรมรวมถึง SriPanwa Yaya -Convention Hall เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ที่บริษัทฯ จะสามารถขายได้ในเวลาที่เหมาะสม ส่วนเรื่องการเจรจาต่อรองขอลดค่าเช่าในช่วงที่โรงแรมต้องปิดจากวิกฤติโควิด กับ ทรัพย์สินของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (กองทรัสต์) กองทรัสต์ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินโรงแรมศรีพันวาสามส่วน คือSPM 1 SPM 2 และ SPM 3 ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดและยุ่งยากมากเราต้องใช้เวลาในการเจรจากันร่วมสามปี จึงได้รับการลดหย่อนค่าเช่าบางส่วนสำหรับ SPM 1 และ SPM 3 ส่วน SPM 2 ซึ่งสัญญาเช่าก็ได้จบลงแล้ว การเจรจาใกล้จะสรุปได้จากการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยในเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมานี้ซึ่งจะไม่มีการลดค่าเช่า แต่จะยินยอมให้ผ่อนชำระได้โดยผู้ถือหน่วยมอบอำนาจให้ทรัสตีเจรจาให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ในวันประชุมนั้นผู้ถือหน่วยได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ต่อสัญญาเช่ากับผู้เช่าเดิม แทนการเปิดประมูลทั่วไปอีกครั้ง

ในปี 2566 บริษัทยังได้ซื้อที่ดินอีกสามแปลง หนึ่งแปลงที่กรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 วงแหวน มูลค่า 798 ล้านบาท ซึ่งเป็นทำเลที่บริษัทเห็นว่ามีศักยภาพ หนึ่งแปลงที่หัวหินเพื่อพัฒนาโครงการ Sasa มูลค่า 248 ล้านบาท โดยได้แถลงข่าวเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เป็นคอนโดมิเนียมตากอากาศสูงเจ็ดชั้น ติดสนามกอล์ฟและใกล้ทะเลจำนวน 248 ยูนิต และอีกหนึ่งแปลงที่ภูเก็ตเพื่อพัฒนาโครงการ Sri Panwa Laguna มูลค่า 677 ล้านบาท นอกจากนี้เรายังได้เปิดตัวโครงการ The Sky Series, Luxury Pool Villa ขนาดห้าห้องนอนจำนวนสี่หลังในพื้นที่แปลงสุดท้ายของโครงการ Sri Panwa ที่ภูเก็ต เพื่อรองรับตลาดชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อบ้านในภูเก็ตเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา

การลงทุนในที่ดินแปลงใหม่นี้ การที่ดอกเบี้ยอยู่ในอัตราที่สูงมาก การรับรู้ดอกเบี้ยเป็นค่าใช้จ่ายแทนที่จะเป็นต้นทุนโครงการเมื่ออยู่ในช่วงก่อสร้างและการดำเนินการก่อสร้างโครงการต่างๆ เพื่อให้แล้วเสร็จ ล้วนเป็นเหตุร่วมที่ทำให้บริษัทฯประสบภาวะขาดทุนจากการประกอบการปี 2566

แม้จะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง หากเงินของพวกเราลงทุนในทรัพย์สินหรือ โครงการต่างๆของบริษัท ซึ่งตั้งใจสร้างสรรแต่สิ่งที่มีคุณค่าเสนอลูกค้า แม้บางโครงการจะขายได้ช้าก็ตาม เราก็หวังว่าจะขายได้เมื่อปัจจัยต่างๆเอื้อต่อการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และในสภาวะที่ปัจจัยลบส่งผลมากกว่า บริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะพัฒนาปรับปรุงและละเอียดรอบคอบในทุกๆด้าน

ดิฉันภาวนาให้ ปี 2567 ดีกว่าปี 2566 เศรษฐกิจและการเมืองของไทยและประเทศต่าง ๆ ในโลกมีเสถียรภาพและสงบสุข ขอให้ทุก ๆ ท่านทำมาค้าขึ้น กำลังซื้อกลับคืนมา สามารถท่องเที่ยวพักผ่อนได้อย่างมีความสุขกันถ้วนหน้า ดิฉันต้องขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย


ศรีวรา อิสสระ
ประธานกรรมการ